ยินดีต้อนรับ........เข้าสู่เว็บไซต์การเรียนรู้เรื่อง Extreme sports ท้าทายชีวิต คนชอบเสี่ยงต้องลอง........
 
-:ผู้เข้ารับชมเว็บไซต์:-
website counter


3| | |6.BMX | | |4

       BMX PARK มาถึงประเภทที่ 4 กันแล้วกับประเภทของการแข่งขันกีฬาจักรยาน BMX โดยการแข่งขันในประเภทที่ 4นี้จะใช้ทักษะแบบเดียวกันกับการแข่งขันประเภท BMX STREET แต่จะดูดีกว่าประเภท STREET ตรงที่ว่า STREET นั้นจะเป็นการใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ตามที่สาธารณะต่างๆ และใช้พื้นที่ตามท้องถนนหรือเนินสูงในการเล่น แต่ในประเภทนี้มีการใช้อุปกรณ์แบบเดียวกันกับ STREET แต่อุปกรณ์ทุกอย่างถูกเซ็ตให้อยู่กันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นแพทเทิร์นในการเล่นซึ่งการขี่จักรยาน BMX ในประเภทนี้จะมีชื่อเรียกว่า BMX PARK

       BMX PARK คืออะไร?
BMX PARK คือการขี่จักรยาน BMX แบบผาดโผนจะมีรูปแบบการเล่นคล้ายกับ STREET อย่างที่กล่าวไปในตอนแรก แต่ในการขี่แบบ PARK คือจะมีการจัดวางสิ่งต่างๆ เอาไว้อย่างพร้อมเพรียงและมีสถานที่เล่นอย่างเป็นทางการไม่ต้องไปเล่นตามพื้นที่สาธารณะแต่อย่างใด ส่วนมากสถานที่ที่ใช้จัดสนามสำหรับ BMX PARK จะเป็นตามโกดังขนาดใหญ่ที่ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้หรืออาจจะเป็นสถานที่ที่ผู้จัดการแข่งขันสร้างขึ้นมาเอง โดยข้างในจะมีอุปกรณ์แบบเดียวกันกับประเภท STREET จะมีทั้งเก้าอี้, เนินสูง, ราวเหล็ก, พื้นราบ, และขั้นบันได ก็อาจจะบอกได้ว่าการแข่งขันแบบ PARK เป็นการนำแบบ STREET มาจัดวางให้มีระเบียบในการแข่งขันมากขึ้นกว่าเดิม

       สำหรับกฎกติกาวิธีการแข่งขันจักรยาน BMX ในประเภท BMX PARK นั้น จะมีกฏกติการเหมือนอย่างประเภทอื่นๆ คือจะมีการแบ่งรุ่นอย่างชัดเจนทั้งในรุ่นของเยาวชนและบุคคลทั่วไป แบ่งเป็นทั้งชาย – หญิง โดยผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องแข่งขันภายในเวลาที่คณะกรรมการกำหนดและคณะกรรมการทั้งหมดจะเป็นผู้ให้คะแนน โดยคะแนนจะมาจากความยากง่ายของท่า และความต่อเนื่องในจุดที่ต้องย้ายไปอีกอุปกรณ์หนึ่ง ซึ่งในการแข่งขันแบบ PARK ผู้เข้าแข่งสามารถใช้เท้าเข้ามาช่วยได้ในการสัมผัสกับอุปกรณ์หรือพื้น โดยจะไม่มีการหักคะแนนในจุดนั้นแต่อย่างใด หรือบางครั้งผู้เล่นจะเอาเท้ายันพื้นเพื่อจัดท่าทางหรือจัดการออกตัวเพื่อไปสู่อุปกรณ์ต่อไปก็ได้ แถมยังสามารถใช้เท้าร่วมกับการเล่นท่าทางต่างๆ ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าประเภทการแข่งขันแบบ PARK จะมีกฎที่ช่วยนักกีฬามากกว่าประเภท FLATLAND และ STREET

       ลักษณะของจักรยานที่ใช้ในการแข่งขันประเภท PARK นั้นจะใช้จักรยานประเภทเดียวกันกับ STREET เพราะอย่างที่บอกไปว่าการแข่งขันแบบ PARK นั้นเป็นการแช่งขันประเภทเดียวกันกับประเภท STREET เพียงแต่ว่าการแข่งขันแบบ STREET นั้นจะเป็นการแข่งขันในพื้นที่เปิด แต่การแข่งขันแบบ PARK จะเป็นการแข่งขันในพื้นที่ที่ได้มาตรฐานที่ได้ถูกจัดเอาไว้สำหรับทำการแข่งขันโดยเฉพาะ ส่วนทักษะเบื้องต้นที่ต้องมีนั้นหากใครที่คุ้นเคยกับการขี่แบบ STREET มาโดยตลอดก็ทำความคุ้นเคยได้ไม่ยากเพียงแค่มีท่าทางเพิ่มขึ้นมานิดหน่อยกับเล่นในพื้นที่ที่ถูกจัดไว้แค่นั้น

       ด้วยความที่เป็นกีฬาที่มีความเสี่ยงสูงดังนั้นผู้เล่นจะต้องทำความเข้าใจและเคารพกฏกติกาของทางผู้จัดการแข่งขันอยู่เสมอและต้องเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวเองซึ่งประกอบด้วยหมวกกันน็อค, สนับเข่า, สนับแข้ง, และสนับข้อศอก เป็นต้น ทั้งหมดเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นมา ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีอุปกรณ์ป้องกันครบก็ใช่ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นไม่ได้ หลายครั้งที่นักกีฬาจักรยาน BMX ประเภท PARK ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงซึ่งหากเป็นมือใหม่แนะนำให้เล่นในจุดที่เป็นพื้นฐานเพื่อเรียนรู้เบสิคและกฎการเล่นเบื้องต้นเสียก่อนจากนั้นพอทำการฝึกฝนจนชำนาญแล้วก็ค่อยขยับขึ้นมาเล่นในจุดที่แอดวานซ์กว่าปกติและนอกจากนี้ก็จะต้องทำตามกฎกติกมารยาทของแต่ละสนามอย่างเคร่งครัดด้วยเช่นเดียวกัน

3| | |BMX RACING| | |4

       BMX RACING
ยาวกันมาต่อเนื่องกับประเภทของการแข่งขันจักรยาน BMX ที่ตอนนี้มาถึงในประเภทที่ 5 กันแล้ว ประเภทนี้จะเป็นประเภทที่หลายๆ คนให้ความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะไม่ต้องใช้ลีลาผาดโผนอะไรมากนัก เพียงแต่ปั่นไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ อาจจะมีเนินให้กระโดดบ้างเป็นบางครั้ง แต่จะเน้นกันที่ความเร็วเป็นหลัก เลยทำให้หลายๆ คนเลือกที่จะแข่งขันในประเภทแถมความอันตรายยังน้อยกว่าอีก 4 แบงที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ สำหรับการแข่งขันจักรยาน BMX ในประเภทที่ 5 นี้ก็คือ การแข่งขันจักรยาน BMX ประเภท BMX RACING

       BMX RACING คืออะไร?
BMX RACING คือประเภทหนึ่งของการแข่งขันกีฬาจักรยาน BMX โดยเป็นการแข่งขันโดยใช้ความเร็วในระยะทางสั้นๆ รูปแบบของสนามจะถูกออกแบบมาให้เป็นทางเรียบสลับกับทางโค้งและมีเนินให้กระโดดในบางจุด หากใครนึกภาพไม่ออก ให้นึกถึงการแข่งขัน MOTORCROSS จะใช้สนามในรูปแบบเดียวกัน โดยการแข่งขัน BMX RACING ได้แพร่กระจายเข้ามาสู่ประเทศไทยเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน และในตอนนั้นก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่อยู่ดีๆ การแข่งขันก็เงียบหายไปจากวงการกีฬาของไทยในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา แต่ในปัจจุบันนี้การแข่งขัน BMX RACING กลับมาได้รับความนิยมมากขึ้นไม่แพ้กีฬาประเภทอื่นๆ และมีการจัดทัวร์นาเม้นท์การแข่งขันเพิ่มมากขึ้น ทำให้อดีตนักกีฬาหันกลับสู่วงการอย่างมากมาย ซึ่งนักกีฬาเด่นๆ ของไทยในประเภทนี้คือ อาแมนดา คาร์ นักแข่งขันลูกครึ่งไทย – อเมริกาที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ที่ประเทศเกาหลีใต้เมื่อปีก่อนหน้านี้

       การแข่งขัน BMX RACING จะเหมือนกับประเภทอื่นๆ จะมีการแบ่งรุ่น แบ่งชาย – หญิงเอาไว้อย่างชัดเจน โดยในแต่ละรอบของการแข่งขันจะมีการปล่อยนักกีฬาให้แข่งขันสูงสุด8คนด้วยกันโดยแต่ละสนามจะมีการเก็บคะแนนสะสมไปเรื่อยๆจนไปถึงสนามสุดท้ายจะเอาผู้ที่มีคะแนนสะสมสูงที่สุดเป็นผู้ชนะในการแข่งขันรายการนั้นๆแต่อย่างไรก็ตามในบางรายการนั้นอาจจะมีกฎกติการที่แตกต่างกันออกไปซึ่งผู้เข้าแข่งขันต้องทำความใจเข้าใจให้ละเอียดเสียก่อนเช่นบางรายการและบางรุ่นอาจจะแข่งแบบสนามเดียวจบหรือบางครั้งอาจจะเอาชนะผู้ชนะของแต่ละสนามมาแข่งขันกันอีกรอบเพื่อหาผู้ชนะคนสุดท้ายของการแข่งขันต่อไป

       มาถึงลักษณะของจักรยาน BMX ในประเภท RACING ตัวช่วงรถจักรยานนั้นจะมีความยาวกว่าประเภทอื่นๆซึ่งนั่นทำเพื่อช่วยเพิ่มหน้าสัมผัสกับพื้นสนามทำให้จักรยานเกาะติดกับสนามได้ดีและเป็นการต่อการกระโดดขึ้นและลงเนินตัวรูปร่างของถูกแบบให้ตรงตามหลักวิทยาศาสตร์แต่แฝงไปด้วยความันสมัยซึ่งนั่นก็เพื่อช่วยนักขี่ได้ขี่จักรยานที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดแต่ในขณะเดียวรูปทรงธรรมดาก็ยังคงได้รับความนิยมไม่แพ้กัน


       สำหรับนักกีฬาจักรยาน BMX ประเภท RACING นั้นจะเน้นทักษะในเรื่องของความเร็ว การกระโดดขึ้นเนินและการเข้าแบงก์เป็นหลัก แต่สำหรับหากใครที่เป็นมือใหม่ก็ขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งลองกระโดดขึ้นเนินเพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อตัวนักกีฬาและอาจจะทำให้จักรยานเกิดความเสียหายได้ ซึ่งการกระโดดขึ้นเนินต้องใช้ความชำนาญในระดับที่สูงหากดูจากหน้าจออาจจะเหมือนทำได้ง่ายๆ แต่จริงๆ แล้วมีความยากมาก หากใครที่อยากจะทดลองกระโดดก็ต้องได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด และที่สำคัญอย่าลืมอุปกรณ์ป้องกันตัวเองหลักๆ เลยจะประกอบไปด้วย หมวกกันน็อค, สนับเข่า, สนับข้อศอก และ สนับแข้งเป็นหลัก ซึ่งนักกีฬาคนไหนที่ไม่ถนัดในด้านผาดโผน แต่ชื่นชอบในเรื่องของความเร็ว การขี่จักรยาน BMX ประเภท BMX RACING ถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีแต่ก็ต้องมีการฝึกฝนให้เกิดความชำนาญเช่นเดียวกัน



3| | |BMX VERT| | |4

        BMX VERT
หลังจากที่ได้สำเสนอประเภทของการแข่งขันจักรยาน BMX ไปแล้ว 5 ประเภทด้วยกัน ก็ได้เดินทางมาถึงในประเภทสุดท้ายกันแล้ว ประเภทนี้จะเป็นการรวมทักษะของทุกประเภทเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการกระโดด การทรงตัวกลางอากาศ การแสดงท่าทาง และการใช้ความเร็วเข้ามาช่วย แม้การขี่จักรยาน BMX ในประเภทนี้จะไม่ใช้เนื้อที่มากเท่าไหร่นัก แต่ความท้าทายถือว่าสูงมากและต้องได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าสนามอย่างใกล้ชิด การขี่จักรยาน BMX ประเภทนี้คือ BMX VERT (VERT ย่อมาจากคำว่า Vertical)

       BMX VERT คืออะไร?
BMX VERT คือการขี่จักรยาน BMX แบบผาดโผนที่ถือเป็นขั้นสูงของการแข่งขันกีฬาจักรยาน BMX โดยอุปกรณ์การเล่น BMX VERT จะมีลักษณะเป็นท่อครึ่งวงกลม หรือเรียกอีกแบบว่า Half Pipe หากใครนึกไม่ออกให้ถึงตัว U จะเป็นในลักษณะนี้ ซึ่งการขี่จักรยาน BMX ประเภท BMX VERT ยังไม่ได้ความนิยมมากเท่าไหร่นักในประเทศไทย และหากเป็นในต่างชาติอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา การขี่จักรยานแบบ BMX VERT ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากและมีนักกีฬามีชื่อเสียงมากมายบางคนสามารถหาเลี้ยงชีพได้ด้วยกีฬาประเภทนี้ ซึ่ง BMX VERT จะเน้นในเรื่องของความเร็วโดยผู้เล่นจะต้องทิ้งตัวจากอีกฝั่งจากนั้นก็ไหลไปตามทางลาดและมากระโดดขึ้นอีกฝั่ง ซึ่งผู้เล่นจะต้องทำการลอยอยู่บนอากาศและแสดงท่าทางให้นานที่สุดก่อนที่จะกลับมาลงมาสู่พื้น

        สำหรับการแข่งขับ BMX VERT ส่วนมาจะมีแต่ผู้ชายที่เชี่ยวชาญในการขี่จักรยาน BMXน้อยครั้งที่จะเห็นนักกีฬาที่เป็นผู้หญิงโดยการแข่งขันจะแข่งกันในเวลาที่กำหนดซึ่งกรรมการจะเป็นผู้ให้คะแนนคะแนนที่นักกีฬาจะได้นั้นมาจากท่าที่โชว์ออกมาความต่อเนื่องของการเล่นท่าโดยที่นักกีฬาสามารถใช้เท้าในการสัมผัสกับอุปกรณ์ได้และจะไม่มีการหักคะแนนแต่อย่างซึ่งนั่นเพื่อเป็นการให้นักกีฬาได้จัดท่าทางและเตรียมตัวที่จะทำการแข่งขันต่อและนอกจากนี้ตอนที่แสดงท่าทางตอนอยู่กลางอากาศนักกีฬายังสามารถใช้เท้าเข้ามาช่วยในการเรียกคะแนนได้อีกด้วย

       ลักษณะของจักรยานที่ใช้แข่งขันใน BMX VERT ส่วนมากจะใช้แบบเดียวกันกับ BMX STREET เพราะเป็นการแข่งขันที่เน้นในเรื่องของการผาดโผนเป็นหลัก จักรยานเลยต้องมีความแข็งแรงและรองรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ทั้งก็ขึ้นอยู่กับตัวนักกีฬาเองว่ามีความถนัดในจักรยานประเภทไหน หรือได้รับการฝึกฝนกับจักรยานแบบไหนมาก่อน เลยทำให้หลายๆ ครั้งผู้เข้ารวมการแข่งขันอาจจะใช้จักรยานลักษณะอื่นๆ ที่ไม่ใช่ STREET เข้าแข่งขันซึ่งกรรมการก็ไม่ได้ตัดสิทธิ์ในเรื่องนี้แต่อย่างใด

       อย่างที่บอกไปว่า BMX VERT เป็นการแข่งผาดโผนที่ต้องใช้เทคนิคขั้นสูง เนื่องจากตัวอุปกรณ์คือ Half Pipe จะมีด้านตั้งฉากอยู่ที่สองด้าน ซึ่งทำให้นักกีฬาต้องใช้ความเร็วเป็นอย่างสูงในการที่จะเหวี่ยงตัวไปตามแนวโค้งของสนาม ซึ่งนักกีฬาส่วนมากจะฝึกฝนกับเครื่องกระโดดลอยตัวที่ชื่อว่า Quarter Pipe ซึ่งอุปกรณ์ชนิดนี้จะมีอยู่ในสนามของจักรยาน BMX ประเภท BMX PARK ซึ่งส่วนนักกีฬาที่อยากจะเข้าแข่งขันในรายการ BMX VERT จะไปฝึกฝนในสนามของ BMX PARK จนเกิดความชำนาญ ก่อนที่จะลงแข่งขันในสนามจริง และด้วยกีฬาที่ถือว่าใช้เทคนิคขั้นสูง ทำให้ความอันตรายเพี่มขึ้นไปด้วยดังนั้น ผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องเตรียมเตรียมร่างกายให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความกล้าและอุปกรณ์ป้องกันตัวต่างๆ รวมถึงต้องฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันอย่างเคร่งครัด เพราะในอดีตที่ผ่านมามีนักกีฬาหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงในการแข่งขัน BMX VERT มาแล้ว






สแกน QR Code
 
 
เว็บไซต์นี้ เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา โครงการ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี คุณครูที่ปรึกษา นางสุดฤดี ประทุมชาติ ปีการศึกษา 2563